“ธนาคารเกียรตินาคิน” แก้เกมยอดขายรถยนต์หด ดิ้นปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถมือสอง-ขยายฐานลูกค้าใหม่ หวังรักษาระดับการเติบโตของสินเชื่อรถยนต์ปีนี้ที่ 7-9% ปักหมุดภายใน 3 ปีข้างหน้า ขยับยอดปล่อยสินเชื่อรถยนต์ต่อเดือนเพิ่มขึ้นแตะ 6 พันล้านบาท “ศูนย์วิจัยกสิกรไทย” ประเมินโควิด-19 ฉุดยอดขายรถยนต์ปีนี้ฮวบ 7-11% เหลือแค่ 9-9.4 แสนคัน
นายฟิลิป เชียง ชอง แทน กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารเกียรตินาคิน เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ปี 2563 นี้ ธนาคารตั้งเป้าการเติบโตของสินเชื่อรวมอยู่ที่ 7-9% โดยการเติบโตหลัก ๆ จะยังมาจากสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ แม้ว่ายอดขายรถยนต์ใหม่จะชะลอตัว โดยน่าจะเติบโตลดลง 10% จากปีก่อน ซึ่งในภาวะที่มีปัจจัยเสี่ยงเข้ามา ธนาคารจะเน้นการเติบโตแบบ smart growth หรือระมัดระวังมากขึ้น และตั้งเป้าหมายว่า ภายใน 3 ปี ยอดการปล่อยสินเชื่อใหม่ของสินเชื่อรถยนต์จะเพิ่มขึ้นเป็นระดับ 6,000 ล้านบาทต่อเดือน จากปัจจุบันเฉลี่ยอยู่ที่ 4,000 ล้านบาทต่อเดือน ทั้งนี้ การขยายผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ จะช่วยหนุนการเติบโตได้
“ปีนี้ ตลาดประเมินยอดขายรถยนต์ใหม่อยู่ที่กว่า 9 แสนคัน ชะลอตัว 10% จากปีก่อน ดังนั้น ธนาคารจะเน้นการเติบโตไปในกลุ่มสินเชื่อรถยนต์ใช้แล้ว หรือรถยนต์มือสองมากขึ้น แม้ว่าจะมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น แต่ให้ผลตอบแทน (yield) ที่ดีขึ้น โดยธนาคารไม่ต้องไปแย่งส่วนแบ่งตลาด (มาร์เก็ตแชร์) การเติบโตในรถใหม่ ซึ่งจะต้องแข่งขันในด้านราคาที่รุนแรง และจะเป็นความเสี่ยงต่อธนาคาร แต่ธนาคารจะเน้นเพิ่มลูกค้ารายใหม่ เจาะกลุ่มคนที่ยังไม่ได้เข้าไปให้บริการ” นายฟิลิปกล่าว
ทั้งนี้ ปัจจุบันธนาคารเกียรตินาคินมีสัดส่วนพอร์ตสินเชื่อรถยนต์ใหม่อยู่ที่ 73% และสินเชื่อรถใช้แล้วอยู่ที่ 27% ส่วนแนวโน้มการเกิดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) พบว่า ในปี 2562 ที่ผ่านมา เอ็นพีแอลสินเชื่อรถยนต์มีทิศทางเพิ่มขึ้น โดยเอ็นพีแอลปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 3.5% จากปี 2561 อยู่ที่ 3.2% อย่างไรก็ดี ในปี 2563 นี้ คาดว่าจะอยู่ในกรอบที่ธนาคารสามารถบริหารจัดการได้ ซึ่งหากพิจารณาสัญญาณจากสินเชื่อกล่าวถึงเป็นพิเศษ (SM) ในภาพรวมในเดือน ม.ค. 2563 พบว่า ตัวเลข SM ดีขึ้น
“แผนปี 2563 เรายังโตต่อเนื่อง แต่ต้องระมัดระวังมากขึ้น เพราะมีปัจจัยภัยแล้ง นักท่องเที่ยวถูกกระทบ และงบประมาณล่าช้า ซึ่งกระทบต่อการขยายตัวทางด้านเศรษฐกิจ ซึ่งเป้าหมายสินเชื่อรถยนต์ขยายตัว 7-9% น่าจะไปได้ เพราะช่วงครึ่งแรกของปี 2562 ที่ผ่านมา ตลาดรถยนต์ใหม่หดตัวรุนแรง 15-16% แต่เรายังโตได้ ในครึ่งปีหลัง 2562 เฉลี่ยไตรมาสละ 2% ดังนั้น ปีนี้เราจะพยายามรักษาการเติบโตให้ได้” นายฟิลิปกล่าว
ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า ปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 คาดว่าจะส่งผลให้ยอดขายรถยนต์โดยรวมตลอดทั้งปีนี้หดตัวถึง 7-11% หรือยอดขายเหลือเพียง 9-9.4 แสนคัน จากเดิมที่คาดหดตัวราว 5% หรือขายได้ 9.6 แสนคัน โดยคาดว่าไตรมาสแรกยอดขายรถยนต์จะได้รับผลกระทบมากที่สุด
นอกจากนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ปริมาณการผลิตรถยนต์ในปี 2563 น่าจะขยับลดลงไปแตะระดับ 1.9 ล้านคัน หรือหดตัวลงกว่า 6% จากปีที่แล้ว เนื่องจากยอดการส่งออกรถยนต์ของไทยในปีนี้มีแนวโน้มที่จะหดตัวลงมากเช่นกัน โดยคาดว่าจะหดตัวลงมากกว่า 7% หรือส่งออกได้น้อยกว่า 9.8 แสนคัน เมื่อเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าไม่ต่างจากไทย